‘บาร์เซโลน่า’ ทีมเจ้าบุญทุ่มของกุนซือ เอ็นรีเก้ เซเตียน นัดสุดท้ายในลีกปิดฉากแบบงามๆ ด้วยการชนะ อลาเบส 0-5 แต่ก็ทำได้เพียงจบฤดูกาลไปด้วยอันดับ 2 ของตาราง ลาลีก้า สเปน ทั้งนี้ก็ยังเหลือถ้วยยุโรปใบใหญ่ให้ได้ลุ้นกันต่อ ทีมต่างดาวมาพร้อมสถิติงามๆ ในเกม UCL ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมาไม่แพ้ในเกมเหย้าเลย ความพร้อมของทีมในเกมนี้ อุสมา เดมเบเล่ ยังเดี้ยงลงสนามไม่ได้แน่ๆ ซามูเอล อุมติตี้ รอทดสอบความฟิต ส่วนทาง เซอร์จิโอ บุสเก็ตส์ กับ อาตูโร วิดาล ติด โทษแบนคนละแมตช์ เฟรงกี้ เดอ ย็อง ฟิตพร้อมกลับมาช่วยทีมได้แล้ว คาดว่าเกมนี้เนื่องจากสกอร์ยังไม่กินขาดคงต้องส่งทีมชุดใหญ่ลงเตะ โดยมี มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น ลงเฝ้าเสา ส่วน เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, เนลซอน เซเมโด้, เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา คุมแนวรับ แดนกลางมี เซร์จี้ โรเบร์โต้และ อีวาน ราคิติช เป็นตัวหลักลงทำเกม ส่วนเกมบุก หลุยส์ ซัวเรซ เล่นกองหน้าคู่ ลิโอเนล เมสซี่
‘นาโปลี’ ทีมลาน้ำของ ซิโมเน่ อินซากี้ คว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย เรียบร้อยในฤดูกาลนี้ถือเป็นแชมป์แรกในรอบ 6 ปีเลยทีเดียว ส่วนผลงาน กัสโช เซเรีย อา ยังไม่ดีตามที่คาดหวังไว้จบซีซั่นด้วยอันดับที่ 7 ของตารางพลาดโควต้าเล่นบอลยุโรปฤดูกาลหน้า ส่วนซีซั่นนี้ยังอยู่ในทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่า ชปล แต่ก็ต้องเจองานหนักหนาสาหัสเพราะคู่แข่งในรอบ 16 ทีม เป็นการเจอ บาร์ซ่า นัดแรกก็โดยบุกมาเสมอ 1-1 ความพร้อมของทีมในการออกไปเยือนถิ่น คัมป์ นู มีผู้เล่นบาดเจ็บที่ลงสนามไม่ได้ คือ คาลิดู คูลิบาลี่ แนวรับคนสำคัญ, วิคตอร์ โอซิมเฮน ศูนย์หน้า, ฟาอูซี่ กูล็อม ปราการหลัง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทีมอย่างแน่นอน คาดว่า อเล็กซ์ เมเร็ต เฝ้าเสา โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, นิโกล่า มัคซิโมวิช, มาริโอ รุย ลงทำหน้าที่ในแดนหลัง ฟาเบียน รูอีซ, ดีเอโก้ เดมเม่ และ พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ คุมเกมแดนกลาง ส่วนสามประสานแนวรุกเป็น มัตเตโอ โปลิตาโน่, ดรีส์ เมอร์เท่นส์ พร้อมด้วย ลอเรนโซ่ อินซินเย่