กุนซือ สเปอร์ส ระบุว่าตัวไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องการเสริมทัพ พร้อมตัดพ้อบอกว่าหน้าที่ของเขาเหมือนเป็นแค่โค้ชมากกว่าผู้จัดการทีมซะอย่างนั้น
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมากล่าวว่า ตัวเขาไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องอื่นๆ ของสโมสรเลย อย่างเช่น เรื่องของนโยบายการเสริมทัพ หรือการต่อสัญญานักเตะ โดยมีอำนาจแค่การนำทีมลงซ้อมและลงสนามเล่นเท่านั้น
อัตราต่อรองพนันบอลดีที่สุดต้อง M88
จนกระทั่งถึงตอนนี้ สเปอร์ส ทีมรองแชมป์ยุโรปปีก่อน ดึงตัวนักเตะมาเสริมทัพแล้วเพียงแค่ 4 คน ประกอบด้วย ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่, แจ็ค คลาร์ก, คิออน เอเตเต้ และ อิซาค มิดท์ทุน โซลเบิร์ก ซึ่งระดับท็อปที่คว้ามาได้มีแค่ เอ็นดอมเบเล่ ที่พร้อมลงเล่นและเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชุดใหญ่ทันที ในส่วนของ คลาร์ก ถูกส่งตัวกลับไปให้ต้นสังกัดเดิม ลีดส์ ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งาน ในขณะที่อีก 2 คนเป็นเพียงผู้เล่นดาวรุ่งที่ดึงมาเข้าฝึกฝนในอะคาเดมี่เท่านั้น ซึ่งหลายๆ คนมองว่าเป็นการเสริมทัพที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับภารกิจที่ว่า คลับไก่เดือยทองต้องการสานต่อจากผลงานเมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งทางด้าน โปเช็ตติโน่ ก็มีความแบบนั้นด้วยเช่นกัน
ผมไม่ได้มีอำนาจอะไรทั้งนั้น – โปเช็ตติโน่
ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์ของคลับไก่เผยว่า “ผมไม่ได้มีอำนาจอะไรเลยทั้งนั้น และไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ผู้เล่นของผมเลย ผมมีหน้าที่เพียงแค่เป็นโค้ชให้พวกเขาเหล่านั้น และผมพยายามทำให้พวกเขาเล่นสนามเล่นด้วยฟอร์มที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องการขายผู้เล่น, ซื้อผู้เล่น, เซ็นสัญญา หรือว่าไม่เซ็นสัญญากับใคร ผมคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนั้นหรอก มันเป็นหน้าที่ของสโมสรและ แดเนี่ยล เลวี่ (ประธานสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)”
‘ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นโค้ชมากกว่าผู้จัดการทีม’
“ผมว่าสโมสรต้องเปลี่ยนชื่อตำแหน่งและคำอธิบายเกี่ยวกับตัวผม แน่นอนว่าผมเป็นบอสที่ตัดสินใจเรื่องแผนการเล่น แต่ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยในด้านอื่นๆ แม้แต่สักนิดเดียว ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าเป็นโค้ชมากกว่ามากกว่าผู้จัดการทีม” อ่านรีวิว M88 กันเลย
ทั้งนี้ที่ผ่านมาแนวทางเสริมผู้เล่นของคลับไก่ ใช้ลักษณะประชุมสภา โดยมี 4 ผู้นำด้านต่างๆ ของสโมสร อย่าง โปเช็ตติโน่, แดเนี่ยล เลวี่, หัวหน้าแมวมอง และผู้อำนวยการอะคาเดมี่ แสดงความเห็นร่วมกันและโหวตว่าจะเลือกใคร ในตำแหน่งใดบ้าง ซึ่งเพราะต้องมีมติปฏิบัติตามเสียงส่วนใหญ่ ทำให้การที่จะคว้าผู้เล่นหน้าใหม่สักคนเป็นไปด้วยความยุ่งยาก ทั้งๆ ที่มีจุดอ่อนต้องแก้ไขมากมาย
ดังนั้นเทรนเนอร์วัย 48 ปีรายนี้ จึงต้องสะกิดให้ทางด้านผู้บริหารเปลี่ยนแนวทาง จะเห็นได้ว่าช่วงหลังมานี้ โปเช็ตติโน่ ออกมาบ่นเรื่องประธานสโมสรบ่อยมาก ทั้งก่อนชิงฯ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ฤดูกาลก่อน หรือไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คล้ายๆ ว่าเป็นรอยร้าวในองค์กรซึ่งจะต้องมีการสะสางในเร็ว ถ้าต้องการสานต่อภารกิจมุ่งหน้าคว้าแชมป์ในอนาคต