‘วูล์ฟแฮมป์ตัน’ ทีมหมาป่าของกุนซือ นูโน เอสปิริโต ซานโต นัดล่าสุดคว้าชัยเหนือ อาร์เซนอล ที่เหลือผู้เล่น 9 คน ไปด้วยสกอร์ 2-1 ปลดล็อกหยุดสถิติไร้ชัย 8 นัดในลีก ตอนนี้ทีมรั้งอันดับที่ 14 ของตาราง จากการลงสนาม 22 นัด ชนะ 7 เสมอ 5 แพ้ 10 มี 26 คะแนน สภาพความพร้อมของทีม ยังประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายทั้ง โรแม็ง ไซอิสส์, รายาน อิต-นูรี่, จอนนี่ กาสโตร, แฟร์นานโด มาร์ซาล และแนวรุกคนสำคัญ ราอูล ฮิเมเนซ ลงสนามไม่ได้ทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ รุย ปาตริซิโอ เฝ้าเสา วิลลี่ โบลี่, เนลสัน เซเมโด้, คอนเนอร์ คัวดี้ คุมเกมรับ รูเบน เนเวส ผนึกกำลัง ชูเอา มูตินโญ่ ดูแลเกมมิดฟิลด์ ส่วนแดนหน้าส่ง อดามา ตราโอเร่, เปโดร เนโต, วิลเลี่ยน โชเซ่ ลงล่าตาข่าย
‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ทัพจิ้งจอกสยามของผู้จัดการทีม เบรนดัน ร็อดเจอส์ หลังจากนัดก่อนโดน ลีดล์ ยูไนเต็ด แซงชนะ 1-3 แต่เกมล่าสุดเรียกความมั่นใจกลับมาได้ด้วยการบุกไปชนะ ฟูแลม 0-2 ตอนนี้ยังลอยตัวที่อันดับ 3 ของตาราง จากการลงสนาม 22 นัด ชนะ 13 เสมอ 3 แพ้ 6 มี 42 คะแนน ตามหลัง แมนฯ ยู รองจ่าฝูงสองแต้ม สภาพความพร้อมของทีม หมดสิทธิ์ใช้งาน แด็นนิส ปราต, เวสลีย์ โฟฟาน่า, เวส มอร์แกน และ ตีมอตี กัสตาญ ที่ยังพักรักษาตัวเนื่องจากบาดเจ็บ แต่ก็มีข่าวดีมากเมื่อ เจมี่ วาร์ดี้ ฟิตพร้อมกลับมายืนหน้าล่าตาข่าย คงส่งผลให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่ฟอร์มดีถอยลงมาเล่นเกมรุกร่วมกับ เจมส์ แมดดิสัน กับ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ แผงแดนกลาง ยูริ ตีเลมันส์ ยืนบัญชาการ ส่วนเกมรับจัดให้ คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล ทำหน้าผู้รักษาประตู จอนนี่ อีแวนส์, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ซากลาร์ โซยุนชู, เจมส์ จัสติน ลงกันถ้วนหน้าเช่นเคย