‘บาเลนเซีย’ ทีมไอ้ค้างคาวของกุนซือ ฆาเบียร์ กราเซีย ไม่มีเกมยุโรปได้พักยาว 1 สัปดาห์เต็มๆ เกมล่าสุดเสมอ เคตาเฟ่ 2-2 ตอนนี้รั้งอันดับที่ 14 ของตาราง จาการลงสนาม 8 นัด ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 4 มีอยู่ 8 คะแนน ถือว่าสถานการณ์ของทีมยังไม่นัก สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ต้องเหมดสิทธิ์ใช้งานเซ็นเตอร์แบ็คชาวฝรั่งเศส เอเลียกิม ม็องกาล่า เพราะคออักเสบและ มุกตาร์ ดิยากาบี้ ที่บาดเจ็บแฮมสตริง คาดว่าเกมนี้จะจัดทัพมาในระบบ 4-4-2 ฆวาเม่ โดเมเน็ก เฝ้าเสา เธียร์รี่ กอร์เรย่า, กาเบรียล เปาลีสต้า, โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า และ ฮูโก้ กิลลามอน ลงคุมแนวรับ แดนกลางทำเกมโดย ดาเนียล วาสส์, การ์ลอส โซเลร์, เดนิส เชริเยฟ, ยูนัส มูซา ส่วนคู่หัวหอกแดนหน้า มักซี่ โกเมซ ยืนหลักและอีกตำแหน่งน่าจะเป็น กอนซาโล่ กูเอเดส ที่เบียดชิง อี กัง อิน ลงสนามนั้นเอง
‘เรอัล มาดริด’ ทัพราชันชุดขาวของผู้จัดการทีม ซีเนดีน ซีดาน เก็บชัยชนะมา 5 ติดรวมทุกรายการ นัดล่าสุดเฉือนชนะ อินเตอร์ มิลาน ในรายการ ยูฟ่า ชปล รอบแบ่งกลุ่ม 3-2 ส่วนเกมหลังสุดในลีกถล่ม ฮูเอก้า 4-1 ตอนนี้รั้งที่ 2 รองจ่าฝูงของตาราง จากการลงสนาม 7 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 1 มีอยู่ 16 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงแต้มเดียวทั้งแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด เรียกได้ว่าถ้าเก็บชัยได้ต่อเนื่องจะขึ้นตำแหน่งเบอร์ 1 ได้แน่นอน สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ มีแข้งบาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงสนาม ได้แก่ นาโช่ เฟร์นานเดซ, มาร์ติน โอเดการ์ด และ ดานี่ การ์บาฆาล ส่วนทาง อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า กับ มาเรียโน ดิเอซ รอเช็คความฟิต ทั้งยังโดนไวรัสเล่นงาน เมื่อวันจันทร์ อีเดอร์ มิลิเตา ผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ล่าสุดตามติดมาด้วย อเดน อาซาร์ และคาเซมิโร่ ที่ผลเป็นเช่นกัน สามรายนี้ต้องกักกันรักษาตัว คาดว่า ติโบต์ กูร์กตัวส์ เฝ้าเสา แนวรับคุมทัพโดย ราฟาแอล วาราน และ เซร์คิโอ รามอส เป็นตัวหลัก แผงแดนกลาง คาเซมิโร่,ลูก้า โมดริช, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, โทนี่ โครส ลงประจำการ ส่วนแดนหน้าล่าตาข่ายมอบหมาย คาริม เบนเซม่า ผนึกกำลัง มาร์โก อเซนซิโอ ล่าสกอร์