‘เซาแธมป์ตัน’ ทีมนักบุญแดนใต้ของกุนซือ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิ่ล แพ้ถึง 12 จาก 15 เกมที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดแพ้ ท็อตเนม ฮอตสเปอร์ส 2-1 ตอนนี้ทีมรั้งอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง จากการลงสนาม 32 นัด ชนะ 10 เสมอ 6 แพ้ 16 มี 36 คะแนน ยังไม่การันตรีการอยู่รอดแต่โอกาสปลอดภัยมีสูงมาก ความพร้อมของทีมยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน เบอร์ทราน, โอริโอ โรเมว, ไมเคิ่ล โอบาเฟมี่, วิลเลี่ยม สมอลโบน และ แดนนี่ อิงส์ แต่มีข่าวดีว่า นาธาน เทลล่า พร้อมเป็นตัวเลือกลงสนาม คาดว่าเกมนี้ ทาคูมิ มินามิโนะ จะผนึกกำลัง เช อดัมส์ เป็นคู่หัวหอก แดนกลางวางตัว ธีโอ วัลค็อตต์, อิบราฮิมา ดิยัลโล่, เจมส์ วอร์ด เพราส์, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ลงทำเกม แนวรับยังมั่นใจใช้งาน ยานนิก เวสเตอร์การ์ด, ไคล์ วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส, ยาน เบดนาเร็ค ลงประจำการ
‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ทัพจิ้งจอกสยามของผู้จัดการทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คว้าชัยมาต่อเนื่อง 3 นัดติดรวมทุกรายการ เกมล่าสุดชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ตอนนี้ทีมรั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตารางจากการลงสนาม 33 นัด ชนะ 19 เสมอ 5 แพ้ 9 มี 62 คะแนน นำสิงห์บลูอันดับ 4 แค่สี่แต้ม ต้องชนะให้ได้เพื่อรักษาอันดับ ความพร้อมของทีม มีผู้เล่นบาดเจ็บลงสนามไม่ได้ คือ เจมส์ จัสติน, ฮาร์วี่ บาร์น และ เวส มอร์แกน คาดว่าเกมนี้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า จะได้ลงเล่นตำแหน่งฟุลแบ็คดูแลเกมรับรวมกับ เวสเล่ย์ โฟฟาน่า กับ จอนนี่ อีแวนส์ แผงมิดฟิลด์เป็น ริคาร์โด้ เปเรยร่า, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลมันส์ ยืนหลัก ทางด้านเกมรุก อโยเซ่ เปเรซ ยืนแถวสองสนับสนุน เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ และ เจมี่ วาร์ดี้ ที่ยืนหน้าล่าสกอร์