‘เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก’ ทีมกระทิงแดงแห่ง ลีกออสเตรีย ของ เยสเซ่ มาร์สช ฟอร์มในลีกนั้นถือดีขึ้นนำเป็นจ่าฝูงสมฐานะตัวเต็งแชมป์ ลงเล่น 6 เกมชนะรวด นัดล่าสุดในลีกเปิดบ้านถล่ม ติโรล 5-0 ทว่าผลงานในรายการ ยูฟ่า ชปล ซีซั่นนี้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ มีเพียงแต้มเดียวจากการลงแล่น 2 เกม เสมอ 1 แพ้ 1 นัด รั้งตำแหน่งรองบ๊วยกลุ่ม A ต้องเร่งฟอร์มอย่างหนักถ้าหวังลุ้นเข้ารอบต่อไป สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ต้องรอเช็คความฟิตของ แพ็ตสัน ดาก้า ศูนย์หน้าตัวเก่งที่ทำไป 12 ประตูฤดูกาลนี้ ซึ่งโอกาสฟิตไม่ทันมีสูงซึ่งและส่งกระทบต่อทีมแน่ๆ คาดว่าทีมจะมาในระบบ 4-2-3-1 เซกู โกอีต้า ดาวรุ่งทีมชาติมาลีต้องเล่นตำแหน่งหักหอกตัวเป้า โดยมี แมร์กิม เบริช่า ตัวรุกทีมชาติเยอรมันชุดเล็กสนับสนุนเกมรุกร่วมกับ เอน็อค เอ็มเวปู และ โดมินิค โซบอสไล
‘บาเยิร์น มิวนิค’ ขุนพลเสือใต้ของกุนซือมือ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค ยังคงรักษามาตรฐานที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลก่อนได้อย่างแรงดีเป็นจ่าฝูงทั้งในบอลลีกและผู้กลุ่ม A รายการบิ๊กเอียร์ ลงสนามนัดล่าสุดนั้นบุกเชือด โคโลญจน์ เฉียดฉิว 2-1 แต่พักผู้เล่นตัวหลักบางรายเอาไว้เพื่อลงเกมนี้ ทำสถิติชนะ 8 นัดติดจากทุกรายการ ความพร้อมของทีมล่าสุดในเกมนี้ จะยังหมดสิทธิ์ใช้งาน นิคลาส ซือเล่ ที่ติดโควิด-19 ในขณะที่ อัลฟอนโซ่ เดวิส กับ ต็องกีย์ เนียงซู ควงคู่กันบาดเจ็บ คาดว่าทีมจะมาในระบบ 4-2-3-1 มานูเอล นอยเออร์ เฝ้าเสา เยโรม บัวเต็ง, เบนฌาแม็ง ปาวาร์, ดาวิด อลาบา และ ลูกัส แอร์กน็องเดซ คุมแดนหลัง โยชัว คิมมิช ผนึกกำลัง เลออน โกเร็ทซ์ก้า ทำเกม ด้านแนวรุก แซร์ช นาบรี้, โธมัส มุลเลอร์ พร้อมด้วย คิงส์ลี่ย์ โกมัน ลงสร้างสรรค์เกม โดยมีดาวยิง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นศูนย์หน้าล่าตาจ่าย