‘เรอัล มาดริด’ ทีมราชันชุดขาวแห่ง ลาลีก้า สเปน ของกุนซือ ซีเนดีน ซีดาน สถานการณ์ยังกดมากๆ กับการรั้งที่ 3 ของกลุ่ม ลงสนาม 5 นัด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 มี 7 คะแนน แต่ก็ตามหลังผู้นำกลุ่มแต้มเดียว ซึ่งเกมนี้ถ้าชนะคือพลาดเข้ารอบไปเลย เชื่อว่าคงพับกระดานสู้สุดใจแน่นอน สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ จะยังไม่มีแข้งเดี้ยง เอเดน อาซาร์, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ดานี่ การ์บาฆาล, อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า รอเช็คความฟิต พร้อมกับข่าวดีที่จะได้นักเตะหลักอย่าง เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมกับมาลงสนามประจำการแนวรับจับคู่กับ ราฟาเอล วาราน ได้ทันเวลา แผงแดนกลาง กาเซมิโร ลงประสานงานกับ ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส ส่วนทางเป็นสามประสานแดนหน้า วินิซิอุส, มาร์โก อเซนซิโอ, คาริม เบนเซม่า ลงล่าตาข่าย
‘โบรุสเซีย มึนเซ่นกลัดบัค’ ทัพสิงห์หนุ่มจาก บุนเดสลีก้า เยอรมัน ของผู้จัดการทีม มาร์โก โรเซ่ ในรอบแบ่งกลุ่มนี้ ลงแข่ง 5 นัด ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 มี 8 คะแนน รั้งตำแหน่งผู้นำกลุ่ม B ก็จริงแต่คะแนนนำที่ 2 กับ 3 แค่แต้มเดียวต้องลุยกันจนเกมสุดท้ายที่เป็นงานยาก เพราะต้องบุกไปเยือน เรอัล มาดริด สภาพความพร้อมของทีมในเกมค่อนข้างดี ขาดแค่ โจนาส ฮอฟมันน์ ที่บาดเจ็บ ในขณะที่ โทนี ยันท์ชเคอ รอเช็คความฟิตของ คาดว่าแนวรับจะลเอกใช้งาน แมตเธียส กินเทอร์ จับคู่ นิโค เอลเวดี้ ทางด้าน แฟลอเรียน นอยเฮ้าส์ กับ คริสตอฟ คราเมอร์ ปั้นเกมแดนกลาง ส่วนเกมบุกส่ง มาร์คัส ตูราม, วาเลนติโน ลาซาโร, ลาร์ส สตินเดิล ปั้นเกมให้หัวหอก อลาสซาเน เพลอา ลงล่าสกอร์ พร้อมทั้งยังมี บรีล เอ็มโบโล่ รอรับบทซูเปอร์ซับ