‘โปรตุเกส’ ทัพฝอยทองของเทรนเนอร์ เฟร์นานโด ซานโตส ผู้นำของกลุ่ม C จากการแข่ง 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 0 ที่ลงสนามนัดล่าสุดในรายการนี้ถล่ม อันเดอร์ร่า 3-0 ซึ่งการแพ้เกมเดียวนั้นคือการบุกเยือนทีมตราไก่ เกมนี้เป้นโอกาสอันดีที่จะเปิดบ้านท้าชนแชมป์โลก สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ มีแข้งบาดเจ็บรายเดียว คือ เปเป้ ที่เจ็บเท้าลงสนามไม่ได้แน่นอน ส่วนแข้งตัวหลักคนอื่นๆ พร้อมประจำการ นำโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์จาก ยูเวนตุส ซึ่งหายติดเชื้อไวรัส โควิด-19กลับมารับใช้ต้นสังกัดได้ 2 เกม คงได้ลงทำเกมรุกร่วมกับ ดีโอโก้ โชต้า ศูนย์หน้าฟอร์มแรงจาก ลิเวอร์พูล และ ชูเอา เฟลิกซ์ ส่วนทาง บรูโน่ เฟอร์นานเดส พร้อมเป็นตัวชูโรงสร้างสรรค์เกมเชื่อมกลางกับรุก โดยมี แบร์นาร์โด้ ซิลวา เชา มูตินโญ, ดานีโล่ เปเรยร่า เป็นกำลังหลักในแผงมิดฟิลด์ ส่วนเกมรับ เนลซอน เซเมโด้, รูเบน ดีอาส และ ราฟาเอล เกร์เรยโร่ลงทำหน้าที่ต้านแนวรุกของทีมผู้มาเยือน
‘ฝรั่งเศส’ ทีมตราไก่ของกุนซือ ดีดีเย เดช็อง ผลงานยอดเยี่ยมไร้พ่ายมา 12 นัด เกมล่าสุดเอาชนะ โครเอเชีย 2-1 รั้งอันดับที่ 2 ของกลุ่ม C ลงสนาม 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 0 มี 6 แต้มเท่ากับจ่าฝูงโปรตุเกส ซึ่งเกมนี้พวกเขาต้องออกไปเยือนทีมฝอยทองถือว่าเป็นเกมที่สำคัญเลยทีเดียว สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ มีแข้งบาดเจ็บที่ไม่ได้ลงสนามช่วยทีม คือ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, นาบิล เฟคีร์, บูน่า ซาร์ ส่วนในรายของ ดาโยต์ อูปาเมกาโน อาการดีขึ้นแต่ไม่ลงสนามเกมนี้มีลุ้นฟิตทันเกมต่อไป ในขณะที่ ปอล ป็อกบา มีชื่อติดชาติแต่ไม่น่าจะได้ลงสนามเพราะฟอร์มไม่ดีและยังมีปัญหานอกสนามจุกจิก จนทาง เดช็อง ให้สัมภาษณ์ว่าจะตุยด้วย ทางด้าน รูเบน อากีลาร์ แบ็กขวาของ โมนาโก ถูกเรียกตัวติดทีมชาติครั้งแรกเช่นเดียวกับ มาร์คัส ตูราม ลูกชายของ ลิลิยง ตูราม ตำนานทัพตราไก่ชุดแชมป์โลกปี 1998 คาดว่าเกมนี้ ฮูโก้ ยอริส เฝ้าเสา แนวรับแน่นๆ ด้วย ลูคัส เฮนาเดส, เคลม็องต์ ล็องเลต์ , เฟร์กล็องด์ เมนดี และ ราฟาเอล วาราน แผงแดนกลางส่ง สตีเฟน เอ็นซองซี, โกร็องแตง โตลิสโซ, อาเดรียง ราบิโอต์ ยืนหลัก ส่วนสามแนวรุกยังคงเป็น อองตวน กรีซมันน์ , อองโตนี มาร์กซิยาล และ คิลิยัน เอ็มบัปเป ลงล่าตาข่าย