‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ทีมจิ้งจอกสยามของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกมล่าสุดเสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1 หลังจากก่อนหน้านี้ชนะมาสามเกมติดต่อกัน ตอนนี้รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง จากการลงสนาม 34 นัด มี 63 คะแนน ยังไม่การันตรีพื้นที่ท็อปโฟธ์ยังต้องสู้ต่อไป ความพร้อมของทีมขาดสองตัวหลังอย่าง เจมส์ จัสติน แนวรับคนสำคัญและตัวรุก ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ คาดว่าเกมนี้ทีมจะมาในระบบ 3-4-1-2 แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เฝ้าเสา เกมรับเป็นงานของ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์ พร้อมกับ ชากลาร์ โซยุนชู แผงมิดฟิลด์ส่ง ริคาร์โด้ เปไรร่า, ยูรี ตีเลอม็องส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ติโมธี่ กาสตาญ ลงประจำการ เจมส์ แม็ดดิสัน เล่นหน้าต่ำทำเกมสนับสนุน เจมี่ วาร์ดี้ ที่ผนึกกำลัง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ เป็นคู่หัวหอก
‘นิวคาสเซิล’ ทัพสาลิกาดงของผู้จัดการทีม สตีฟ บรูซ หลังไร้พ่ายมาสี่นัดติดต่อกันก็มีอันต้องปราชัยในเกมล่าสุดเปิดบ้านแพ้ อาร์เซนอล 0-2 สถานการณ์ของทีมรั้งอยู่อันดับที่ 17 ของตาราง ลงแข่ง 34 นัด มีอยู่ 36 คะแนน แต่ก็การันตรีการอยู่รอดปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว เพราะนำอันดับ 18 ถึง 9 แต้ม ความพร้อมของทีมยังประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายทั้ง ฟาเบียน ชาร์, คาร์ล ดาร์โลว์, จามาล ลาสเซลล์ส, ไอแซ็ก เฮย์เด้น และ ไรอัน เฟรเซอร์ ซึ่งเป็นขุมกำลังที่สำคัญส่งผลกระทบต่อทีมแน่ๆ คาดว่าเกมนี้ทีมจะมาในระบบ 3-5-2 มาร์ติน ดูบราฟก้า ทำหน้าที่นายด่าน เคียแรน คลาร์ค ยืนเซ็นเตอร์คุมเกมรับร่วมกับ เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ และ พอล ดัมเม็ตต์ แผงแดนกลางแน่นๆ ด้วย จาค็อบ เมอร์ฟี่, จอนโจ้ เชลวี่ย์, มิเกล อัลมิร่อน, ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, แม็ตต์ ริตชี่ โดยมีแนวรุกเป็น อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง กับ คัลลั่ม วิลสัน ลงล่าสกอร์