‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ทีมปิศาจแดงของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อยู่ในช่วงผลงานที่ดีเยี่ยมผลงานไร้พ่าย 9 นัดติดใน พรีเมียร์ลีก (ชนะ 8, เสมอ 2) ส่วนในรายการ คาราบาว คัพ ผ่านก่อนรองฯ มาได้ด้วยการบุกไปชนะ เอฟเวอร์ตัน 0-2 เรียกได้ว่าความมั่นใจจัดเต็ม สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ วิคตอร์ ลินเดอลอฟ รอเช็คความฟิตจากการบาดเจ็บหลัง ส่วนทาง เอดิสัน คาวานี่ ติดโทษแบนนัดที่สองเนื่องจากโพสต์คำที่เกี่ยวกับการเหยียดผิวจนถูกแบน 3 เกม ส่วนแข้งที่เหลือพร้อมลงสนาม คาดว่า ดีน เฮนเดอร์สัน อาจจะเบียด ดาบิด เด เคอา ลงสนามทำหน้าที่เฝ้าเสา แนวรับส่ง อารอน วาน-บิสชาก้า, เอริค ไบญี, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ ลงประจำการ แดนกลางเป็น สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงประสานงานกับ ปอล ป็อกบา กับ เฟร็ด ส่วนทางตัวเก่งของทีม บรูโน เฟอร์นานเดส ลงทำหน้าที่กลางรุก พร้อมสนับสนุนเกมบุกให้คู่หัวหอก อ็องตอนี มาร์ซียาล กับ มาคัส แรชฟอร์ด
‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ ขุนพลเรือใบสีฟ้าของเทรนเนอร์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่แพ้เลยจาก 11 นัดรวมทุกรายการ (ชนะ 8, เสมอ 3) ทว่าผลงานในพรีเมียร์ลีกยังไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นการต่อสู้รายการฟุตบอลถ้วยไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็มีความหมาย สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ประสบปัญหาใหญ่คือการทีมมีผู้เล่นหลายรายต้องกักกันตัวเนื่องจากโควิด-19 ได้แก่ เอเดอร์สัน, กาเบียล เซซุส, ไคล์ วอล์คเกอร์, เฟอรัน ตอร์เรส, อีริค การ์เชีย และ ทอมมี่ ดอยเล่ ส่วนทาง นาธาน อาเก้ กับ อายเมอริค ลาร์ปอเต้ ยังาดเต็บพักต่อไป คาดว่าเกมนี้ แซ็ค สเตฟเฟ่น เฝ้าเสา ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, เบนจามิน เมนดี้ ประจำการเกมรับ อิลคาย กุนโดกัน, เฟอร์นานดินโญ่ ทำเกมแดนกลาง โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ ทำหน้าที่เพลเมคเกอร์ ริยาด มาเรซ ผนึกกำลัง ฟิล โฟเด้น สร้างสรรค์เกมรุก โดยมี เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำหน้าที่หัวหอก