ลิเวอร์พูลของกุนซืออาร์เน่ สลอต เจอฝันร้ายอีกครั้งเมื่อเปิดบ้านพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ต่อหน้าแฟนบอลที่สนามแอนฟิลด์แบบสุดช็อก เกมเริ่มเพียงสองนาทีเท่านั้น อามัด ดิยัลโลจ่ายทะลุให้บรีย็อง เอ็มเบวโม่หลุดไปยิงผ่านมือจอร์จี้ มามาร์ดาชวิลีอย่างเฉียบคม แม้ลิเวอร์พูลจะประท้วงว่าจังหวะก่อนหน้าอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์โดนปะทะจนศีรษะกระแทกพื้น แต่ผู้ตัดสินไมเคิล โอลิเวอร์ยังปล่อยให้เกมดำเนินต่อ และกลายเป็นประตูเร็วที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในศึกแดงเดือดนับตั้งแต่ยุคนิกกี้ บัตต์
หลังเสียประตูเร็ว ลิเวอร์พูลพยายามเร่งเกมเพื่อทวงคืนความได้เปรียบ โคดี้ กัคโปมีโอกาสทองหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะปั่นบอลไปชนเสาอย่างจังถึงสามครั้ง เรียกเสียงเสียดายจากแฟนบอลเจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์และเฟเดริโก เคียซ่า พยายามสร้างเกมบุกทางริมเส้นแต่ยังเจาะแนวรับของปีศาจแดงที่เล่นกันอย่างมีวินัยไม่ได้ ขณะที่แผงหลังของลิเวอร์พูลเองก็เล่นกันอย่างลนลาน โดยเฉพาะมิลอช เคอร์เคซที่เกือบส่งบอลคืนหลังพลาดจนทีมเสียจังหวะหลายครั้ง
แฟนบอลเจ้าบ้านเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันเมื่อเกมผ่านครึ่งชั่วโมง ลิเวอร์พูลครองบอลได้เกือบตลอดแต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความเด็ดขาด ซาลาห์พยายามใช้ทักษะเฉพาะตัวเลี้ยงหลบเข้าเขตโทษแต่ถูกคอนอร์ แบรดลีย์ตามสกัดได้ทุกจังหวะ จนแฟนบอลที่เดิมพันลิเวอร์พูลผ่านเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ต่างเหงื่อตก ฝั่งแมนยูเองไม่ได้มีโอกาสมากนักแต่ทุกครั้งที่ได้สวนกลับ อามัด ดิยัลโลและบรูโน่ แฟร์นันเดสมักสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับลิเวอร์พูลได้เสมอ ทำให้เกมยังเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายลุ้นทำประตูอยู่ตลอด
ครึ่งหลังเริ่มต้นด้วยความหวังของลิเวอร์พูลเมื่อสลอตตัดสินใจปรับระบบเป็น 4-2-4 เพื่อเพิ่มน้ำหนักในเกมรุก การส่งฮูโก เอคิติเก้และเคอร์ติส โจนส์ลงมาเติมเกมทำให้หงส์แดงมีพื้นที่มากขึ้น และในที่สุดนาทีที่ 78 ความพยายามก็เป็นผลเมื่อกัคโปตามซ้ำลูกครอสของเคียซ่าเข้าไปอย่างเฉียบขาด ช่วยให้ลิเวอร์พูลตามตีเสมอได้สำเร็จ เสียงเฮดังกระหึ่มแอนฟิลด์อีกครั้ง แฟนบอลเชื่อว่าการคัมแบ็กอาจเกิดขึ้นเหมือนที่พวกเขาเคยทำได้หลายครั้งในอดีต