‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ ทัพเรือใบสีฟ้าของผู้จัดการทีม เป็ป กวาร์ดิโอลา ผลงาน 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ชนะ 4 แพ้ 1 ถือว่าแกร่งพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมรุกที่ยิงได้เป็นกอบเป็นกำ แมตช์ล่าสุดบุกไปถล่ม วัตฟอร์ด 0-4 ไม่มีความกดดันใดๆ ในลีก เพราะครองตำแหน่งรองจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น ความพร้อมของทีมในเกมนี้ ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน เคาดิโอ บราโว ที่บาดเจ็บ และทาง เซร์คิโอ อเกวโร่ ต้องพักยาวหลังผ่าตัด คาดว่าพร้อมวางหมากมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน เอแดร์ซอน โมราเอส เฝ้าเสา ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นานดินโญ่, อายเมอริก ลาปอร์กต์, เบนฌาแม็ง เมนดี้ ทำหน้าที่ในเกมรับ เควิน เดอ บรอยน์ รับบทบาทเพลเมกเกอร์ ดาบิด ซิลบา และ โรดรี้ เอร์นานเดซ คุมแดนกลาง สามประสานแนวรุกเป็น ฟิล โฟเด้น, กาเบรียล เชซุส และ ราฮีม สเตอร์ลิง เดินหน้าล่าตาข่าย
‘นอริช ซิตี้’ ทีมนกขมิ้นของกุนซือ ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ อันดับบ๊วยตกรอบแน่นอน นัดล่าสุดเหลือเหลือผู้เล่นแค่ 9 คนตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรกพ่าย เบิร์นลีย์ 0-2 ตกรอบอย่างแน่นอนแล้ว ที่เหลือคือเล่นให้จบตามโปรแกรม ทว่านัดสุดท้ายอำลา พรีเมียร์ลีก ทั้งทีน่าจะฮึดสู้กันอย่างเต็มที่ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ยังขาดผู้เล่นเจ็บหน้าเดิม คือ คริสตอฟ ซิมเมอร์มันน์, แซม ไบรั่ม และ แกรนท์ ฮานลี่ย์ สามปราการหลังซึ่งลงสนามไม่ได้ คาดว่าคงเป็น มักซ์ แอรอนส์, เบน ก็อดฟรีย์, ทิมม์ โคลเซ และ จามาล ลูอิส ดูแลเกมรับ ส่วนแผงแดนกลางฝากความหวังไว้กับ เล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์, ท็อดด์ แคนท์เวลล์ และ โอเนล เอร์นานเดซ ส่วนหัวหอกตัวเป้าต้องมาดูกันว่าจะเป็น ตีมู ปุ๊กกี้ ที่ตั้งแต่รีสตาร์ตมายังทำประตูไม่ได้ หรือจะเลือกใช้งาน โจซิป เดอร์มิช ที่ลงตัวจริงเหนือพักหลังสตาร์ทตัวจริง
