‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ ทีมเรือใบสีฟ้าของกุนซือ เป็ป กวาร์ดิโอล่า เกมล่าสุดถล่ม อาร์เซนอล 0-4 ผ่านเข้ารอบตัดเชือก คาราบาว คัพ แบบสวยงาม ส่วนใน พรีเมียร์ลีก ก็แกร่งพอตัวไร้พ่ายมา 5 เกมติด ตอนนี้รั้งอันดับที่ 8 ของตาราง จากการการลงสนาม 13 นัด ชนะ 6 เสมอ 5 แพ้ 2 มี 23 คะแนน ตามหลังทีมสุดท้ายของท็อปโฟธ์แค่ 3 แต้ม ทั้งยังแข่งน้อยกว่าถือว่าโอกาสกลับโซนหัวตารางมีเต็มกำมือ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ขาดเพียง อิริค กาเซียร์ รายเดียวที่บาดเจ็บต้องพักถึงช่วงปีใหม่ ส่วนในรายของ เซอร์กิโอ อเกวโร่ นัดล่าสุดลงเล่น 15 นาทีสุดท้าย ทว่ายังไม่น่าถูกเสี่ยงลงสนามเล่นเต็มๆ คงมีชื่อเป็นสำรอง คาดว่าเกมนี้ เอแดร์ซอน กลับมาเฝ้าเสา ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์ และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ดูแลปราการหลัง แฟร์นันดินโญ่ ทำเกมกับ อิลคาย กุนโดกัน ในแดนกลาง ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง สร้างสรรค์เกมรุก กาเบรียล เฆซุส นำหน้าล่าสกอร์
‘นิวคาสเซิล’ ทัพสาลิกาดงของผู้จัดการทีม สตีฟ บรูซ ตกรอบ คาราบาว คัพ รอบก่อนรองฯ ด้วยการพ่ายทีมจาก แชมเปี้ยนชิพ อย่าง เบรนท์ฟอร์ด 1-0 ส่วนสถานการณ์ใน พรีเมียร์ลีก ถือว่าอยู่ในระดับกลาง กับการรั้งอันดับที่ 12 ของตาราง จากการลงสนาม 13 นัด ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 4 มี 18 คะแนน ความพร้อมของทีมในเกมนี้ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง และ จามาล ลาสเซลล์ส สองแข้งหลักติดโควิด-19 ลงสนามไม่ได้แน่นอน ส่วนทาง ฟาบีอาน แชร์ กับ คาเบียร์ มานกีโย รอผลตรวจแต่ก็มีแนวโน้มว่าจะติดโควิด-19 ส่วนทาง เฟเดริโก้ เฟอร์นันเดซ รอเช็คความฟิต ดีอันเดร เยดลิน, เอมิล คราฟท์, จามาล ลูอิส คุมเกมรับ มิเกล อัลมิร่อน, จอนโจ เชลวีย์, ฌอน ลองสตาฟฟ์, แม็ตต์ ริทชี่ คุมเกมแดนกลาง คัลลัม วิลสัน ผนึกกำลัง โจลินตัน เป็นคู่หัวหอก