‘ลิเวอร์พูล’ พลพรรคหงส์แดงของผู้จัดการทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ กลับมาตอกย้ำความแรงต่อเนื่องได้จากการการบุกไปถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-3 พร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม การันตรีได้ว่าซีซั่นนี้ยังอยู่บนเส้นทางป้องกันแชมป์ ตอนนี้ทีมรั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง จากการลงสนาม 21 นัด ชนะ 11 เสมอ 7 แพ้ 3 มี 40 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ 4 แต้ม และไล่รองจ่าฝูงผีแดงแค่แต้มเดียวเท่านั้น สภาพความพร้อมของทีม ยังขาดผู้เล่นเดี้ยงหน้าเดิมๆ ได้แก่ ดิเอโก้ โจต้า, โจแอล มาติป, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดร์จ ที่ยังลงสนามไม่ได้ ส่วนรายของ ซาดิโอ มาเน่ ยังต้องรอประเมินอาการแต่ไม่น่าจะถูกเสี่ยงลงสนาม ทางด้าน เจมส์ มิลเนอร์ กับ นาบี เกอิต้า รอเช็คความฟิตแต่ไม่น่าจะผ่าน คาดว่าเกมนี้ อาลีสซง เบ็คเกอร์ เฝ้าเสา แน็ท ฟิลลิปส์ จับคู่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทำหน้าที่เซ็นเตอร์แบ็คซึ่งทำได้ดี เทรนท์-อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ทำเกมริมเส้นคนละฝั่ง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์, ติอาโก้ อัลกันตาร่า ทำเกมแดนกลาง ส่วนเกมรุกนำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังทำประตูไม่ได้ 6 นัดติดต่อกันก็มาปลดล็อกยิงไปสองประตูในนัดล่าสุด กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของหงส์แดง นับตั้งแต่ เอียน รัช ในช่วงปี 1981-1987 ที่ทำประตูรวมเกิน 20 ลูกจากทุกรายการได้ 4 ฤดูกาลติดต่อกัน
‘ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน’ ทีมนกนางนวลของเทรนเนอร์ เกรแฮม พอตเตอร์ ไร้พ่ายมา 4 นัดติดต่อกัน เกมล่าสุด เลอันโดร ทรอสซาร์ กลายเป็นฮีโร่ซัดประตูโทนประตูชัยพาทีมเฉือนชนะ สเปอร์ส 1-0 คว้าสามแต้ม รั้งอันดับ 17 จากการลงสนาม 21 นัด ชนะ 4 เสมอ 9 แพ้ 8 มี 27 คะแนน หนีห่างโซนตกชั้น 7 แต้ม ความพร้อมของทีม ฟลอเรียน แอนดอน, เตริค แลมป์ตีย์, เจสัน สตีล บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงสนาม ส่วนทาง อลิเรซ่า ยาฮานบาคช์ กับ แดนนี่ เวลเบ็ค รอทดสอบความฟิต คาดว่าเกมนี้ยังใช้แข้งชุดเดิมจากเกมชนะคลับไก่ เกมรุกแดนหน้านำทัพโดย นีล โมเปย์ กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ ในขณะที่แดนกลางใช้งาน ปาสกาล กรอส ผนึกกำลัง อีฟส์ บิสซูม่า คุมเกมแดนกลาง ฝั่งเซนเตอร์แบ็กแน่นๆ ด้วย เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บสเตอร์ ลงประจำการ