‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ทีมจิ้งจอกสยามของเทรนเนอร์ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกมล่าสุดเปิดบ้านถล่ม เวสต์บรอมวิช 3-0 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนนี้รั้งอันดับที่ 3 ของตาราง จาการลงสนาม 32 นัด มีอยู่ 59 คะแนน ต้องรักษาพื้นที่ท็อปโฟธ์ให้ได้จนจบซีซั่น ความพร้อมของทีมขาดเพียงแข้งเดี้ยงหน้าเดิมอย่าง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ และ เจมส์ จัสติน ส่วนแข้งคนอื่นๆ พร้อมลงสนาม คาดว่าจะวางแผนมาในระบบ 3-4-1-2 แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เฝ้าเสา สามปราการหลังเป็น ชากลาร์ โซยุนชู, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์ แดนกลางเป็น ริคาร์โด้ เปไรร่า, ยูรี่ ตีเลอม็องส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ และ ติโมธี่ กาสตาญ ส่วนทาง เจมส์ แม็ดดิสัน รับบทเพลย์เมคเกอร์อยู่ด้านหลัง เจมี่ วาร์ดี้ ที่จับกับ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ยืนหน้าล่าสกอร์
‘คริสตัล พาเลซ’ ดิ อิเกิ้ล ของผู้จัดการ รอย ฮ็อดจ์สัน เกมล่าสุดโดน เชลซี บุกมาถล่มคาบ้าน 1-4 สองเกมหลังยังไม่ชนะ ตอนนี้รั้งอยู่อันดับที่ 13 ของตาราง มีอยู่ 38 คะแนน ความพร้อมของทีมยังหมดสิทธิ์ใช้งานแข้งบาดเจ็บทั้ง เจมส์ แม็คคาร์ธี่, มามาดู ซาโก้, นาธาน เฟอร์กูสัน, นาธาเนี่ยล ไคลน์, เจมส์ ทอมกิ้นส์ และ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ คาดว่าจะจัดทัพมาในระบบ 4-4-2 บิเซนเต้ กูเอต้า ทำหน้าที่นายด้าน แดนหลังส่ง ชีคฮู กูยาเต้, โจเอล วอร์ด, แกรี่ เคฮิลล์ และ พาทริค ฟาน อานโฮลต์ ลงทำเกม ส่วนทาง จอร์แดน อายิว, ไยโร่ รีเดวัลด์, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เอเบเรชี่ เอเซ่ ลงทำเกมกลาง เกมรุกนำโดยคู่หัวหอก คริสติย็อง เบนเตเก้ ผนึกกำลัง วิลฟรีด ซาฮา