ประเทศ | ญี่ปุ่น |
ฉายา | ซามูไรสีน้ำเงิน, ทีมปลาดิบ |
อันดับฟีฟ่า | 23 |
กัปตันทีม | มายะ โยชิดะ |
ผู้จัดการทีม | ฮาจิเมะ โมริยาสุ |
คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก (สมัย) | – |
เส้นทางสู่ รอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022 | อันดับ 2 กลุ่ม B โซนเอเชีย |
ฟุตบอล 2022 รอบแบ่งกลุ่ม | กลุ่ม E |
แมตช์ที่กำลังจะมาถึงของญี่ปุ่น | (23/11 – 20:00) เยอรมนี vs ญี่ปุ่น |
นักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น
- ผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่น
ผู้รักษาประตู: เคซูเกะ โอซาโกะ, ดาเนียล ชมิดต์, ชูอิจิ กอนดะ, อิจิ คาวาชิม่า
กองหลัง: โค อิตาคุระ, ฮิโรกิ อิโต, โชโกะ ทานิงุจิ, มายะ โยชิดะ, ยูตะ นากายามะ, ยูโตะ นากาโตโมะ, ทาเกฮิโระ โทมิยาซุ, มิกิ ยามาเนะ
กองกลาง: วาตารุ เอ็นโดะ, อาโอะ ทานากะ, กากุ ชิบาซากิ, ไดจิ คามาดะ, เก็งกิ ฮารากูชิ, เคสุเกะ ฮอนดะ, ทาคุมิ มินามิโนะ
กองหน้า: เคียวโกะ ฟุรุฮาชิ, ไดเซน มาเอดะ, คาโอรุ มิโตมะ, ริตสึ โดอัง, ทาเคฟุสะ คุโบะ, จุงยะ อิโต, ทากูมะ อาซาโนะ
- อายุเฉลี่ยของผู้เล่น: 27.5
- แผนการเล่นที่มักใช้งาน: 4-3-3
นักเตะดาวเด่นของทีมชาติญี่ปุ่น
- ชินจิ คากาวะ มิดฟิลด์มากประสบการณ์วัย 33 ปี มีความโดดเด่นในการเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป ซึ่งเคยค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาแล้ว สำหรับ คากาวะ เป็นที่โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวในสนามฟุตบอล ปัจจุบันสังกัดของสโมสร บซินต์-เตรยเดิน ในเบลเยียม เฟิสต์ ดิวิชั่น
- เคสุเกะ ฮอนดะ นักเตะจอมเก๋าวัย 36 ปี ที่มีความสามารถรอบด้าน สามารถเล่นทั้งเป็นปีก, กองหน้า หรือว่ากองกลางตัวรุกก็ยังได้ เป็นกำลังหลักในการพาทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ เอเชียน คัพ 2011 เป็นผู้เล่นที่มีความแม่นยำ ทักษะการเลี้ยงบอล และความสามารถในการยิงประตูมีความเฉียบคม แม้ว่าเรื่องกำลังอาจจะไม่สู้พลังหนุ่ม แต่เรื่องความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาเต็มแน่นอน
- ทาคูมิ มินามิโนะ แฟนบอลของทีม เซเรโซ โอซากะ วัย 12 ปีในอดีต ผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานอย่าง โรนัลโด้ เลือกที่จะประกอบอาชีพนักฟุตบอล และแข้งชาวเอเชียรายนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เขาได้รับโอกาสค้าแข้งกับบิ๊กทีมอย่าง ลิเวอร์พูล แม้ว่าจะไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนัก แต่ก็มีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ 2021/22 ของหงส์แดงนั้นเอง ซัมเมอร์ 2022 ได้ย้ายไปค้าแข้งกับ โมนาโก ในลีกเอิง ซึ่งก็ยังเป็นทีมในระดับแนวหน้าอยู่นั้นเอง
ผู้เล่นที่น่าจับตามองของทีมชาติญี่ปุ่น
- ทาเคฟุสะ คุโบะ จากวันเดอร์คิดสายเลือดบูชิโด สู่การโลดแล่นในสโมสรชั้นนำระดับโลก มิดฟิลด์วัย 21 ปีรายนี้เคยเล่นระดับเยาวชนที่ บาร์เซโลน่า ก่อนกลับมาค้าแข้งกับ เอฟซี โตเกียว พร้อมกับการพัฒนาฝีเท้าแบบก้าวกระโดด ในปี 2018 เรอัล มาดริด ดึงตัวไปรวมทีมพาเขาหวนคืนสู่ ลาลีกา อีกครา จนหลายๆ คนบอกว่าเขาคือ โอโซระ สึบาสะ บนโลกแห่งความจริง แม้ว่าส่วนสูงเพียง 173 ซม. แต่ด้วยความว่องไวและทักษะบอลที่ได้รับการฝึกฝนกับทีมชั้นแห่งยุโรปตั้งแต่ 11 ขวบ ทำให้ คุโบะ คือแข้งอนาคตไกลสายเลือดเอเชียที่มีโอกาสสำเร็จในระดับโลกสูงมาก
- ทาเกฮิโระ โทมิยาซุ แนวรับวัย 23 ปี ที่ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล แห่งพรีเมียร์ลีก ทีมปืนใหญ่ซื้อตัวมาจากโบโลญญา ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 เขาสามารถที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ การมีรูปร่างสูงใหญ่ 6 ฟุต 2 นิ้ว ทำให้ไม่เสียเปรียบนักเตะยุโรปหรืออเมริกาใต้ อีกทั้ง โทมิยาซุ มีความเร็วสูง เล่นบอลได้ดีทั้งสองเท้า และเล่นลูกกลางอากาศได้ดีอีกด้วย
เฮดโค้ชทีมชาติญี่ปุ่น
ฮาจิเมะ โมริยาสุ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพของทีมชาติญี่ปุ่นและเป็นสมาชิกระดับตำนานของสโมสร ซานเฟรชเช ฮิโรชิมะ ในเจลีก ซึ่งเขาได้เริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมกับทีมที่เขาเป้นตำนานในปี 2012 สะสมประสบการจนได้รับโอกาสคุมทีมชาติญี่ปุ่นชุด U-23 ในปี 2017 ต่อมาเพียงปีเดียว โมริยาสุ ก็ได้รับตำแหน่งกุนซือทีมซามูไรสีน้ำเงินชุดใหญ่ในปี 2018 ซึ่งเขาก็ยังคุมทีม U-23 อยู่ด้วย
เขาเคยพาทีมสร้างประวัติศาสตร์ในบอลโลก 2018 ด้วยการชนะ โคลอมเบีย 2–1 นับเป็นครั้งแรกที่ทีมจากเอเอฟซีเอาชนะทีมจากคอนเมบอลได้ในรายการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ในเดือนธันวาคม 2019 ญี่ปุ่นแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันออก โมริยาซุ เลือกใช้ผู้เล่นดาวรุ่งและประสบการณ์น้อย แต่ยังไปได้ไกลถึงการเป็นอันดับที่ 2 ของรายการเลยทีเดียว
จุดแข็งทีมชาติญี่ปุ่น
- ระบบการพัฒนาฟุตบอลระดับชาติที่เข้มแข็งและมีระเบียบแบบแผน ทีมชาติญี่ปุ่นคือทีมที่เล่นฟุตบอลได้อย่างมีระบบชาติลำดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย ด้วยระบบการฝึกซ้อมเป็นแบบแผนตั้งแต่ระดับเยาวชน การวางรากฐานฟุตบอลที่ดีเริ่มตั้งแต่ระดับท้องถิ่น สอดคล้องกับแผนการพัฒนาฟุตบอลระดับชาติที่วางอนาคตถึง 100 ปี กลายเป็นผลผลิตที่งอกงามซึ่งนับรวมทีมชาติชุดใหญ่ด้วยเช่นกัน
- มิดฟิลด์เกรด A เต็มทีม แดนปลาดิบเป็นชาติสามารถผลิตมิดฟิลด์ฝีเท้าเยี่ยมขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่องแทบทุกปี กองกลางเชิงรุกเลือดซามูไรหลายๆ รายไปได้ไกลถึงระดับโลก อาทิ ไดจิ คามาดะ, เคสุเกะ ฮอนดะ, ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นต้น และแน่นอนว่าแข้งเหล่านี้จะเป็นกำลังหลักของทีมลุ้นเวิล์ดคัพ 2022
จุดอ่อนทีมชาติญี่ปุ่น
- ลักษณะทางกายภาพ ปัจจุบันส่วนสูงเฉลี่ยของผู้ชายญี่ปุ่นสูงขึ้นมากกว่าในอดีต ผลสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2014 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 172.2 ซม. ใกล้เคียงกับชายชาติในแอฟริกาที่อยู่ราวๆ 170-172 ซม. ทว่าเทียบความความแข็งแกร่งร่างกาย แข้งจากแดนอาทิตย์อุทัยยังตามหลังแอฟริกาพอสมควร แน่นอนว่าบนเวทีฟุตบอลโลกลักษณะทางกายภาพนี้จึงเป็นจุดอ่อนของทีม
- ทีมขาดแคลนกองหน้าตัวจบสกอร์ เมื่อมองกลับไปตารางดาวซัลโวของเจลีก ส่วนใหญ่ยังถูกยึดครองด้วยนักเตะต่างชาติ ในขณะที่ทีมชาติญี่ปุ่นก็ยังหาคนฝากความหวังไว้ไม่ได้ กลายเป็นเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จระดับโลก
- การที่นักเตะมีอีโก้ในตัวเองน้อยเกินไป ทีมชาติญี่ปุ่นมีทีมเวิร์คและเล่นตามระบบ ไม่มีใครพยายามทำตัวเด่นกว่าใครในทีม นิสัยนี้กลายเป็นดาบสองคม ซึ่งเห็นได้ว่าทีมซามูไรสีน้ำเงินต่อบอลกันเยอะมาก และมักจะตกม้าตายในการยิงประตู ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดความดุดันโยธรรมชาตินั้นเอง
แมตช์ที่กำลังจะมาถึงและผลการแข่งขันของทีมชาติญี่ปุ่น
- (23/11 – 20:00) เยอรมัน vs ญี่ปุ่น
- (27/11 – 17:00) ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา
- (02/12 – 02:00) ญี่ปุ่น vs สเปน
ในตารางบอลโลก รอบคัดเลือก ทีมชาติญี่ปุ่นผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายอย่างง่ายดาย ชนะรวดพร้อมไม่เสียประตูเกมเยือน ส่วนรอบแบ่งกลุ่มเจองานหนักอยู่ กรุ๊ป ออฟ เดธ ทีมซามูไรจะรอดหรือไม่? ติดตามได้กับวิเคราะห์ทีมบอลโลก 2022
อัตราต่อรองทีมชาติญี่ปุ่น
- อัตราต่อรอง ญี่ปุ่น คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก: 251.00
- อัตราต่อรองดาวซัลโวของ ญี่ปุ่น: ทาคุมิ มินามิโนะ 151.00; ยูยะ โอซาโกะ 151.00; ทากูมะ อาซาโนะ 301.00
- อัตราต่อรอง ญี่ปุ่น เข้ารอบชิงชนะเลิศ: 81.00
- อัตราต่อรอง ญี่ปุ่น เข้ารอบรองชนะเลิศ: รออัพเดท
- อัตราต่อรอง ญี่ปุ่น เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ: รออัพเดท
- อัตราต่อรอง ญี่ปุ่น ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นผู้นำกลุ่ม: รออัพเดท
- อัตราต่อรอง ญี่ปุ่น ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม: 11.00
- อัตราต่อรองการตกรอบของ ญี่ปุ่น: รอบแบ่งกลุ่ม รออัพเดท; รอบ 16 ทีม รออัพเดท; รอบ 8 ทีม รออัพเดท; รอบก่อนรองฯ รออัพเดท; รอบรองฯ รออัพเดท; แชมป์/นัดชิง รออัพเดท
นอกจากข้อมูลดีๆ ต้องมีเทคนิคพนันบอลโลก 2022 ทีมชาติญี่ปุ่นขาประจำในฟุตบอลโลก ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ถึง 7 สมัยติด ในปี 2010 และ 2018 เข้ารอบน็อกเอาต์ ส่วนในบอลโลก 2022 จะทำได้อีกหรือไม่? ต้องติดตามกัน