‘ไอซ์แลนด์’ ทีมมนุษย์น้ำแข็งภายใต้การคุมทีมของเทรนเนอร์ เอริค ฮัมเรน ในส่วนของ ยูโร 2020 ยังต้องไปลุยการเข้ารอบด้วยการเล่นเพลย์ออฟ ส่วนในศึก เนชั่นส์ ลีก 2020-22 ก็ถูกจัดให้อยู่กลุ่มกับบิ๊กทีมซึ่งเมื่อดูภาพรวมเพื่อนรวมกลุ่มก็เหนือกว่า อย่างไรก็ดีผลงาน 5 นัดหลังสุด ก็ไร้พ่าย ชนะ 4 เสมอ 1 ความพร้อมของทีมในเกมนี้ ต้องมีปัญหานอกสนามที่ส่งต่อการจัดทัพลงทำศึกนั้นคือ กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน จอมทัพแดนกลางของ เอฟเวอร์ตัน และ โยฮันน์ เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน ปีกขาก เบิร์นลี่ย์ ปฏิเสธที่ลงช่วยทีมชาติไอซ์แลนด์ ลงเล่นในรายการ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เกมที่เจอกับ อังกฤษ และ เบลเยียม เพราะปัญหา0การเดินทางขณะที่ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ใกล้จะเริ่มต้น คาดว่าแดนหน้าคงเป็น โคลเบอินน์ ซิกธอร์สสัน จับคู่กับ จอน ดาออย บูวาร์สสัน นำทัพล่าตาข่าย
‘อังกฤษ’ ทัพสิงโตคำรามขวัญใจมหาชนของกุนซือ แกเร็ท เซาท์เกต ผ่านเข้ารอบฟุตบอล ยูโร เรียบร้อยด้วยตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม A ส่วนในรายการ เนชั่นส์ ลีก 2020-22 ก็เป็นทีมเต็งแชมป์ลีก A กลุ่ม 2 เปิดมาเกมแรกก็เจอกับคู่ปรับ ไอซ์แลนด์ ที่เขี่ยทัพทรีไลอ้อนส์ 2-1 ตกรอบ 8 ทีม ยูโร 2016 ผลงาน 5 นัดหลังสุด ชนะ 4 แพ้ 1 ทำไปได้ 3 คลีนชีท เกมที่พ่ายก็แพ้สาธารณรัฐเช็ค ถือได้ว่าผลงานน่าพอใจ ความพร้อมของทีมในเกมนี้ ทางด้าน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ต้องถอนตัวเนื่องจากก่อเหตุทะเลาะวิวาท ล่าสุด มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ แฮร์รี วิงค์ส ก็ถอนตัวเพราะบาดเจ็บ ทั้งนี้ได้มีการเรียกแข้งหน้าใหม่ติดชาติครั้งแรกหลายรายทั้ง ฟิล โฟเดน, เมสัน กรีนวูด, คัลวิน ฟิลลิปส์, แจ็ค กรีลิช, คอเนอร์ โคดี้ และ เอนส์ลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ เรียกได้ว่าน่าจะมีการจัดที่น่าสนใจ โดยการผสมเลือดใหม่และแข้งเก๋าประสบการณ์ ที่แน่ๆ หะวใจหลักเกมรุกฝากไว้ที่กัปตันทีม แฮร์รี่ เคน รายของ ดีน เฮนเดอร์สัน น่าจะได้เฝ้าเสา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ประจำการแดนหลัง