‘เอฟเวอร์ตัน’ ทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินของกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ คว้าชัยมา 7 นัดติดต่อกัน ตอนนี้รั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตาราง จากการลงแข่ง 4 นัด ชนะรวด 4 นัด มีอยู่ 12 แต้ม เกมต่อไปเจองานหนักเพราะต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของแชมป์เก่าหงส์แดง สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ เมสัน โฮลเกต และ ยาร์รัด แบรนท์แวท ยังต้องพักต่อไป มีข่าวดีคือ อัลลัน, อังเดร โกเมส, เชมัส โคลแมน หายจากบาดเจ็บกลับมาซ้อมได้แล้ว ส่วนตัวหลักของทีมคนอื่นๆ พร้อมประจำการ จอร์แดน พิคฟอร์ด เฝ้าเสา เชมัส โคลแมน, ไมเคิล คีน, เยอร์รี่ มีน่า, ลูก้าส์ ดีญ ลงประจำการเกมรับ ส่วนแผงแดนกลางเป็น อับดูลาย ดูกูเร่, ฟาเบียน เดลฟ์ พร้อมด้วย อันเดร โกเมส สามประสานแนวรุก ริชาร์ลิซอน, ฮาเมส โรดริเกซ, โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน ซึ่งระเบิดฟอร์มเก่งพร้อมลุยต่อเนื่อง
‘ลิเวอร์พูล’ ทัพหงส์แดงของผู้จัดการทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ คงต้องมีการปรับโมเมนตัมกันมาพอสมควร หลังจากนัดล่าสุดในลีกหักปากกาเซียนพ่าย แอสตัน วิลลา ยับเยิน 7-2 ส่งผลทำให้รั้งอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง จากการลงสนาม 4 นัด ชนะ 3 แพ้ 1 มีอยู่ 9 คะแนน โปรแกรมต่อไปเจองานไม่ง่ายเพราะต้องบุกไปเยือนคู่ปรับร่วมเมืองที่ตอนนี้เป็นจ่าฝูง ความพร้อมของทีมในเกมนี้ นาบี เกอิต้า ยังต้องกักกันตัวต่อไป ในขณะที่ ติอาโก อัลคันทารา และ ซาดิโอ มาเน มีผลการตรวจโควิด-19 ล่าสุดออกมาเป็นลบ ลงซ้อมกับทีมเรียบร้อย ส่วนในรายของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมน่าจะกลับมาช่วยทีมได้พร้อมกันหลังหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา คาดว่า อาลิซง เบคเกอร์ เฝ้าเสา ส่วนเกมรับ โจ โกเมซ, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ยังคงทำหน้าที่ในแนวรับต่อไป ส่วนสามประสานแดนหน้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ อีกรายน่าจะเป็น ซาดิโอ มาเน่ โดยมี ดีโอโก้ โชต้า เป็นอีกตัวเลือกทีเด็ด