‘ดินาโม เคียฟ’ ทีมรองแชมป์ฤดูกาลก่อนและจ่าฝูงในปัจจุบันของ ยูเครน พรีเมียร์ ลีก ภายใต้การคุมทีมของเทรนเนอร์ มีร์เชีย ลูเชสคู นัดล่าสุดในรายการนี้ สภาพทีมอยู่ในสถานการณ์โคม่าตัวผู้เล่นหลายราย ทำให้บุกโดนเจ้าบุญทุ่มเปิดบ้านชนะ 2-1 เรียกได้ว่าแทบจะปิดประตูสู่รอบต่อไปแน่นอนแล้ว จากการรั้งที่ 3 ของกลุ่ม G จากการลงสนาม 3 นัด ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 มี 1 คะแนน คงยากจะไล่ตามทีมข้างบนทัน เนื่องจากที่ 1 และ 2 ของกลุ่ม คือ บาร์ซ่า กับ ยูเว่ ตัวบิ๊กๆ ของยุโรปทั้งนั้น อย่างไรก็ดีเชื่อว่าพวกเขาก็จะสู้อย่างเต็มที่ สภาพความพร้อมของทีม มีคิต้า บูร์ด้า, โอเล็กซานเดอร์ ทีมชิค, นาซารีย์ รูซิน, โวโลดิเมียร์ คอสเตวิช ยังบาดเจ็บลงสนามไม่ได้ ส่วนในรายของ เดนิส โปปอฟ หายจากโควิด-19 อาจจะได้ลงช่วยทีม เช่นเดียวกับ เซอร์เก ซิดอร์ชุค พ้นโทษแบนฟิตพร้อมเป็นตัวเลือก คาดว่าเกมนี้นำทัพแกนหลักอย่าง การ์ลอส เด เปนญ่า, โทมัส เคดซิโอร่า, อิลีย่า ซาบาร์นี่, วิคตอร์ ซิกันคอฟ, วลาดิสลาฟ ซูเปรียย่า และ เกอร์สัน โรดริเกส
‘บาร์เซโลน่า’ ทัพเจ้าบุญทุ่มของผู้จัดการทีม โรนัล คูมันส์ บิ๊กทีมแห่ง ลาลีก้า สเปน ลงสนามไป 3 ในรายการนี้ ชนะรวด คว้ามาเต็มๆ 9 แต้ม โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปเส้นทางสดใส แต่อย่างไรก็ดีคงสู้เต็มที่เพื่อรักษาสถิติชนะรวดในกลุ่ม G ให้ได้ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ อันซู ฟาติ ผ่าตัดเข่าพักยาวๆ 4 เดือน ส่วนทางแข้งเดี้ยงอย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กับ โรนัลด์ อเราโฮ ยังต้องพักฟื้นต่อ ส่วนทาง ซามูเอล อุมติตี้ แม้หายเจ็บแล้วแต่คงไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม คาดว่าเกมนี้ มิราเล็ม ปานิช จับคู่กับ เฟรงกี้ เดอ ยอง ทำเกมในแผงแดนกลาง ส่วนเกมหลังคุมด้วย เคราร์ด ปิเก้, เกลม็อง ล็องเล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา, เซร์จี้ โรแบร์โต้ โดยมี มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น เฝ้าเสา มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จะได้โอกาสลงทำเกมรุกรวมกับ ลิโอเนล เมสซี่ สนับสนุน อองตวน กรีซมันน์ ศูนย์หน้าตัวเป้า
