‘คริสตัล พาเลซ’ ดิ อิเกิ้ล ของผู้จัดการทีม รอย ฮอดจ์สัน ผลงานระยะหลังตกลงไปมาก ฟอร์มฝืดเสมอมา 2 นัดติด ก่อนแพ้ขาดลอย 2 เกมหลังสุด เสียไปมากถึง 10 ประตู ตอนนี้รั้งอยู่ที่ 14 ของตาราง ความพร้อมของทีมเกมนี้ยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายทั้ง มาร์ติน เคลลี่, แกรี่ เคฮิลล์, มามาดู ซาโก้, คอนเนอร์ วิคแฮม, เวย์น เฮนเนสซี่ย์ และ เนธาน เฟอร์กูสัน ในขณะที่ เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ รอทดสอบความฟิต คาดว่าคงจัดทีมในระบบ 4-4-2 โดยมี นาธาเนียล ไคลน์ กับ ชีกู กูยาเต้ ทำเกมรับ แผงมิดฟิลด์ส่ง ลูก้า มิลิโวเยวิช,แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เจมส์ แม็คอาเธอร์ และ เอเบเรชี่ เอเซ่ ลงประจำการ วิลฟรีด ซาฮา ผนึกกำลัง คริสติยอง เบนเตเก้ เป็นคู่หัวหอก
‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ทีมจิ้งจอกสยามของเฮดโค้ช เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คืนฟอร์มเก่งเดินหน้าคว้าชัย 3 จาก 5 นัดหลัง 5 นัดหลังสุดแพ้แค่เกมเดียว รั้งอยู่อันดับ 3 บนตาราง พรีเมียร์ลีก ความพร้อมของทีตือดี มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บรายเดียวคือ คักลาร์ โซยุนชู ส่วนทาง ริคาร์โด้ เปเรร่า หายจากอาการบาดเจ็บและกลับมาซ้อมแล้วแต่ยังไม่พร้อมลงสนามเกมนี้ คาดว่าคงการจัดทัพตามแผน 4-2-3-1 ยึด 11 ตัวจริงจากนัดล่าสุด แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เฝ้าเสา แนวรับแน่นๆ ด้วย เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, เจมส์ จัสติน, จอนนี่ อีแวนส์ และ ติโมธี คาสตันเย่ แดนกลางส่ง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ผนึกกำลัง ยูริ ตีเลอม็องส์ เกมรุกพร้อมลุย เจมส์ แมดดิสัน, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ สร้างสรรค์เกมสนับสนุน เจมี่ วาร์ดี้ ล่าตาข่าย