‘เชลซี’ ทีมสิงห์บลูยังคงสถิติไร้พ่ายในยุคของกุนซือ โทมัส ทูเคิล เกมล่าสุดบุกไปชนะ แอตเลติโก มาดริด แบบหวุดหวิด 1-0 กุมความได้เปรียบไปก่อนใน ยูฟ่า ชปล รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ส่วนผลงานใน พรีเมียร์ลีก เกมหลังสุดเสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1 รั้งอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง ต้องล่าแต้มเพื่อคืนท็อปโฟธ์ สภาพความพร้อมของทีม ขาดเพียง ติอาโก้ ซิลวา ที่ยังบาดเจ็บอยู่เพียงรายเดียว แข้งที่เหลือพร้อมลงสนาม คาดการณ์ว่า เอดูอาร์ เมนดี้ เฝ้าเสา แนวรับยังมั่นใจใช้งาน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ แผงมิดฟิลด์มอบหมายให้ รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่ ทำเกม ทางด้าน เมสัน เมาท์ ผนึกกำลัง ติโม แวร์เนอร์ ยืนทำเกมรุกแถวสอง สนับสนุน แทมมี่ อับบราฮัม ยืนหน้าล่าตาข่าย โดยมี โอลิวิเย่ร์ ชีรูด์ รับบทซุปเปอร์ซับ
‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ขุนพลปิศาจแดงของผู้จัดการทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกมล่าสุดใน ยูโรป้า ทำได้แค่เสมอ เรอัล โซเซียดาด 0-0 แต่อย่างไรก็ดีสามารถผ่านเข้ารอบ 16 ได้ด้วยสกอร์รวม 0-4 กลับมาลุ้น พรีเมียร์ลีก ต่อในสุดสัปดาห์นี้ ที่มีคิวบุกไปเยือนสิงห์บลู เกมหลังสุดในลีกเปิดบ้านถล่ม นิวคาสเซิล 3-1 ซึ่งก็ผลงานดี รั้งอยู่อันดับที่ 2 ของตาราง ความพร้อมของทีม มีแข้งที่หมดสิทธิ์ลงสนาม คือ ปอล ป็อกบา, ฆวน มาต้า, ดาเนียล เจมส์ และ ฟิล โจน ส่วนทางด้าน เอดิสัน คาวานี่, ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค, สก็อตต์ แม็คโตมิเนย์ รอทดสอบความฟิต คาดว่า ดาบิด เด เคอา กลับมาประจำการเฝ้าเสาในเกมลีกเช่นเดิม แนวรับเป็นงานของ อารอน วาน บิสซาก้า, เอริก ไบยี่, แอ๊กเซล ตวนเซเบ้, อเล็กซ์ เตลลิส แดนกลาง เฟร็ด ยังผนึกกำลัง เนมันย่า มาติช ส่วนเกมรุก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังคงเป็นตัวหลักพร้อมด้วย เมสัน กรีนวู้ด กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วนตำแหน่งหัวหอกอาจจะต้องเป็น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงล่าสกอร์ต่อไป