‘กาดิซ’ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อัลบาโร่ เซร์เบร่า ดีอาซ ได้พักยาวถึงสัปดาห์เต็มหลังจากนัดล่าสุดที่โดย เซบีญ่า ถล่ม 3-0 ผลงาน 10 นัดหลังสุดในลีก ชนะได้แค่ 2 เกม แต่ทว่าหนึ่งในนั้นดันเป็นการชนะ บาร์เซโลน่า จึงกลายเป็นว่าทีมใหญ่จะต้องไม่ประมาททีมกลางๆ ทีมนี้ ที่กำลังรั้งอยู่อันดับที่ 12 ของตาราง จากการลงสนาม 20 นัด ชนะ 6 เสมอ 6 แพ้ 8 มี 24 คะแนน ความพร้อมของทีมในการรับจ่าฝูงตราหมี ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ไม่มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักลงสนามไม่ได้ ขาดเพียง คาร์ลอส อคาโป, โจเซ่ มารี และ หลุยส์มี่ คัวซาดา ที่บาดเจ็บหมดสิทธิ่วยทีม และในรายของ อัลฟอนโซ่ เอสปิโน่ ที่ต้องกักกันตัวเนื่องจากติดโควิด-19 คาดว่าเกมนี้ เฮเรเมียส เลเดสม่า ทำหน้าที่นายด่าน ในขณะที่ อีซัก การ์เซเลน, เปโดร อัลกาล่า, มาร์ช บาโร, ฆวน กาล่า ประจำการเกมรับ แผงแดนกลางเป็น ฟาลี ฆีเมเนซ, อเล็กซ์ เฟร์นานเดซ, เยนส์ ยอนส์สัน ทำเกม พร้อมนำทัพโดย อันโธนี่ โลซาโน่ จับคู่หัวหอกกับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ล่าตาข่าย
‘แอตเลติโก มาดริด’ ทัพตราหมีของผู้จัดการทีม เดียโก้ ซีเมโอเน่ คว้าชัยต่อเนื่องใน ลาลีก้า มา 7 นัดติดต่อกัน เกมล่าสุดเปิดบ้านยำ บาเลนเซีย 3-1 ซึ่งเรื่องของความฟิตไร้ปัญเพราะว่าได้พัก 5 วันเต็มๆ ผลงานช่วงนี้ยังคงฟอร์มยอดเยี่ยมนำเป็นจ่าฝูงของตาราง จากการลงสนาม 18 นัด ชนะ 15 เสมอ 2 แพ้ 1 มี 47 คะแนน นำรองจ่าฝูงทีมราชันชุดขาว 4 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่า 2 นัด เรียกได้ว่าสถานการณ์ได้เปรียบมากๆ สภาพความพร้อมทีม ล่าสุด มาริโอ เอร์โมโซ กับ ยานนิค การ์รัสโก้ สองผู้เล่นตัวหลักผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวกต้องกักกันตัว ในขณะที่ คีแรน ทริปเปียร์ ยังติดโทษแบนอีก 2 นัด คาดว่าเกมนี้ ยาน โอบลัค เฝ้าเสา โฮเซ่ มาเรีย คีเมเนซ, สเตฟาน ซาวิช, เฟลีเป้ มอนเตโร่ ทำหน้าที่ปราการหลัง ทางฝั่งเกมแดนกลางส่ง ชีเม่ เวอร์ซัลโก้, โกเก้, มาร์กอส ยอเรนเต้, โตม่าส์ เลอมาร์, ซาอุล ญีเกซ ลงทำเกมแบบเน้นๆ เกมรุกเป็น หลุยส์ ซัวเรซ ลงตัวจริงแดนหน้า ส่วนคู่หัวหอกต้องชิงกันลงสนามระหว่าง อังเกล คอร์เรีย หรือว่า ชูเอา เฟลิกซ์