‘เบิร์นลี่ย์’ เดอะ คลาเรตส์ ของผู้จัดการทีม ชอน ไดช์ เกมล่าสุดโดน ท็อตเนม ฮอทสเปอร์ส ถล่ม 4-0 ซึ่งเป็นการแพ้ครั้งแรกหลังไร้พ่าย 4 นัดติดต่อกันในลีก สถานการณ์บนตารางยังไม่ดีสักเท่าไหร่ รั้งอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง จากการลงสนาม 26 นัด ชนะ 7 เสมอ 7 แพ้ 12 มี 28 คะแนน อยู่ห่างจากโซนตกชั้นเพียง 5 แต้ม ต้องเร่งเครื่องอีกมากเพื่อความปลอดภัย ความพร้อมของทีม ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน แอชลีย์ บาร์นส์ และ โยฮานน์ กุดมุนด์สัน ที่บาดเจ็บ ในขณะที่ ร็อบบี้ แบรดี้ กับ อีริค ปีเตอร์ส รอเช็คความฟิตซึ่งมีแววว่าคงไม่ทันลงช่วยทีม คาดว่าเกมนี้จะมาในระบบ 4-1-3-2 นิค โป๊ป เฝ้าเสา แนวรับส่ง แม็ทธิว โลว์ตัน, เบน มี, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, ชาร์ลี เทย์เลอร์ ลงประจำการ จอช บราวน์ฮิลล์ เล่นกลางรับ แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, ดไวท์ แม็คนีล, เดล สตีเฟนส์ ผนึกกำลังทำเกมมิดฟิลด์ เดล สตีเฟ่นส์ น่าจะถูกดร้อป เป็นทาง คริส วูด และ เจย์ โรดริเกซ ทำหน้าที่คู่หัวหอก
‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ทีมจิ้งจอกสยามของกุนซือ เบรนดัน ร็อดเจอส์ แพ้มาต่อเนื่องสองเกมติดรวมทุกรายการ นัดก่อนใน ยูโรป้า แพ้แก่ สลาเวีย ปราก 0-2 ส่วนเกมล่าสุดในลีกโดย อาร์เซนอล ถล่มถึงบ้าน 1-3 แต่ยังดีที่อยู่อันดับ 3 ของตาราง จากการลงสนาม 26 นัด ชนะ 15 เสมอ 4 แพ้ 7 มี 49 คะแนน ความพร้อมของทีม กำลังตกที่นั่งลำบากมากเลยทีเดียว เพราะประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เจ็บหนักพักยาวอย่างน้อย 6 สัปดาห์ เดนนิส แพรต, อาโยเซ่ เปเรส, เวส มอร์แกน, เจมส์ จัสติน ยังลงช่วยทีมไม่ได้ ส่วนทาง เจมส์ แมดดิสัน, จอนนี่ อีแวนส์ และ เวสลีย์ โฟฟาน่า รอเช็คความฟิต คาดว่าเกมนี้ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ทำหน้าที่นายด่าน ทิโมธี คาสตานเย่, ชาลาร์ โซยุนชู, ลุค โธมัส ยืนหลักเกมรับ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ กับ ยูริ ตีเลมันส์ ทำเกมกลาง วางตัว ริคาร์โด้ เปเรยร่า กับ เจนกิซ อูนแดร์ ลงทำเกมรุก โดยมี เจมี่ วาร์ดี้ ยืนหน้าล่าสกอร์