‘ไบรท์ตัน’ ทีมนกนางนวลของกุนซือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ จบฤดูกาลที่แล้วในอันดับที่ 15 ของตาราง ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมายังไม่มีการทุ่มเสริมทัพมากนัก แกนหลักของทีมส่วนใหญ่ยังเป็นแข้งหน้าเดิมจากปีก่อน จะมีเพียง เบน ไวท์ ที่กลับมาจากการยืมตัวอย่างและอดีตดาวเตะหงส์แดงที่ได้ตัวมาฟรีอย่าง อดัม ลัลลานา ซึ่งน่าเบียดเป็น 11 ตัวจริงได้แน่ สภาพความพร้อมของทีม ขาดเพียง โจเซ เอซเกียร์โด้ ที่มีปัญหาบาดเจ็บลงสนามไม่ได้ ส่วนทาง เดวี พร็อพเพอร์ ยังต้องรอเช็คความฟิตก่อนเกม คาดว่าเจอทีมเน้นรุกคงต้องมาในระบบ 4-2-3-1 เน้นแนวรับแน่นๆ เลวิส ดังค์, แดน เบิร์น, โจเอล เวลท์แมน, เบน ไวท์ ลงประจำการแนวรับ อีฟส์ บิสซูม่า เล่นกลางรับ ส่วนแผงมิดฟิลด์สามคนคุณชายทองม้วนน่าจะได้ลงตัวจริงร่วมกับ พาสคาล โกรสส์ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ด โดยมีศูนย์ตัวเป้าเป็น นีล โมแป ลงล่าตาข่าย
‘เชลซี’ ทัพสิงโตน้ำเงินครามของผู้จัดการทีม แฟรงค์ แลมพาร์ด ลงทุนเสริมทัพร่วม 200 ล้านปอนด์ คว้าแข้งดังมาร่วมทีมทั้ง ไค ฮาเวิร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์,ฮาคิม ซิเยค, ติอาโก้ ซิลวา และ เบน ชิลเวลล์ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ มาเตโอ โควาชิช ติดโทษแบนมาจาก เอฟเอ คัพ นัดชิงฤดูกาลก่อน ทั้งยังคงไม่สามารถใช้งานนักเตะตัวหลักอย่าง บิลลี กิลมอร์, ฮาคิม ซิเยค, เบน ชิลเวลล์ และ ติอาโก้ ซิลวา ส่วนทาง คริสเตียน พูลิซิช มีอาการเจ็บแฮมสตริงดีขึ้นแต่น่าจะยังไม่ได้ลงตัวจริง คาดว่า เคิร์ท ซูม่า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ รีซ เจมส์ ทำหน้าที่ในแนวรับ อันโตนิโอ คอนเต้ ประสานงานกับ จอร์จินโญ่ และ ไค ฮาเวิร์ตซ์ เชื่อมเกมแดนกลาง โดยแนวรุก เมสัน เมาท์ กับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอยด์ ยังได้รับโอกาส ส่วนตำแหน่งหัวหอก ติโม แวร์เนอร์ คงสามารถเบียดชิง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงตัวจริงได้