การเริ่มต้นคุมทีมนัดแรกของ ฌอน ไดซ์ กับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ในพรีเมียร์ลีก ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง เมื่อพวกเขาพ่ายให้กับบอร์นมัธ 0-2 ที่สนามไวทัลลิตี้ สเตเดียม เกมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างด้านคุณภาพและความมั่นใจของทั้งสองทีมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบอร์นมัธที่ยังคงเล่นได้อย่างแข็งแกร่งภายใต้การคุมทีมของ อันโดนี อิราโอลา ซึ่งพาทีมขยับขึ้นรั้งรองจ่าฝูงต่อจากอาร์เซนอลในฤดูกาล 2025/26
แม้ฟอเรสต์จะเพิ่งโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการชนะปอร์โต้ในศึกยูโรปาลีกเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่พวกเขากลับดูเหนื่อยล้าและไร้พลังในเกมนี้ เจ้าบ้านเริ่มต้นเกมได้ดุดันกว่า และมาได้ประตูนำในนาทีที่ 20 จากลูกเตะมุมของ มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ที่เปิดบอลโค้งข้ามหัว มาทซ์ เซลส์ เข้าประตูไปโดยตรง แม้ผู้เล่นฟอเรสต์จะประท้วงว่าบอลออกจากเท้าทาเวอร์เนียร์ก่อน แต่ผู้ตัดสินยืนยันคำตัดสินเดิม
บอร์นมัธยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง และมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 38 จาก เอลี จูเนียร์ ครูปี ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่ซัดไกลกว่า 30 หลา บอลพุ่งเสียบมุมสุดสวย กลายเป็นประตูที่ 4 ของเขาในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และเป็นการยิงสามนัดติด การทำประตูนี้ยิ่งตอกย้ำความอันตรายของแนวรุกบอร์นมัธ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์หลายเว็บมองว่าแม้ทีมจะขาดดาวยิงตัวหลักอย่าง เอวานิลสัน ที่ยังบาดเจ็บก็ตาม
ครึ่งหลัง ไดซ์พยายามแก้เกมด้วยการส่ง ไรอัน เยตส์, ไทโว อโวนิยี และ โอมาริ ฮัตชินสัน ลงสนามเพื่อเพิ่มความสดในเกมรุก ฟอเรสต์ครองบอลได้มากขึ้น แต่ยังขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย โอกาสดีที่สุดมาถึงช่วงท้ายเกมเมื่อ มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ ยิงเต็มข้อจากนอกกรอบ แต่ จอร์จ เปโตรวิช นายด่านบอร์นมัธพุ่งปัดได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ทีมเยือนพลาดโอกาสไล่ตีไข่แตกไปอย่างน่าเสียดาย
