‘บาร์เซโลน่า’ ทัพอาซูลกราน่าของผู้จัดการทีม นัดล่าสุดในลีกพ่าย แอตเลติโก มาดริด 1-0 ส่งผลทำให้จากการลงสนาม 8 นัด ฃนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 3 มี 11 คะแนน อยู่อันดับ 10 ของตาราง ส่วนเกมล่าสุดลงเล่นในรายการ ยูฟ่า ชปล แม้จะใส่ดาวรุ่งและตัวสำรองลงสนามผลงานยังดี สามารถชนะ ดินาโม เคียฟ 4-0 ชนะ 4 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม การันตีคว้าตั๋วไปเล่นในรอบต่อไปเรียบร้อย สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ เคราร์ด ปีเก้, เซร์จี้ โรเบร์ โรนัลด์ อาเราโฮ และ อันซู ฟาติ ส่วนทาง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ น่าจะกลับมาซ้อมได้แต่ยังเร็วเกินไปที่จะลงสนาม คาดว่า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ อุสมาน เดมเบเล่ น่าจะได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ อองตวน กรีซมันน์ ส่วนทางด้าน ลิโอเนล เมสซี่ กับ เฟรงกี้ เดอ ย็อง ที่ได้พักในเกมล่าสุดพร้อมลุย ที่น่าห่วงเป็นรับที่ขาดตัวหลัก คงต้องฝากความหวังไว้ที่ เกลม็อง ล็องเล่ต์ กับ จอร์ดี้ อัลบา พร้อมด้วย มาร์ก-อังเดร แทร์ สเตเก้น เฝ้าเสา
‘โอซาซูน่า’ เดอะ ลิตเติ้ล เรด วันส์ ภายใต้การคุมทีมของ จาโกบา อาร์ราซาเต้ นัดล่าสุดในลีกเสมอ อูเอสกา 1-1 ส่งผลให้ไม่ชนะใครเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน จากการลงเล่น 9 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 4 มี 11 คะแนน รั้งอยู่อันดับ 14 ของตาราง สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บรบกวนพอสมควรทั้ง เอเซเกล ชิมี่ อวีล่า, โจนาธาน คัลเลรี่, อรีดาเน่ เอร์นานเดซ, ฆวน เปเรซ, ดาร์โก้ บราซานัช, และ บรานดอน บาดเจ็บ คาดว่า เซร์คิโอ เอร์เรร่า เฝ้าเสา ฟากุนโด้ รอนกาญ่า, ดาบิด การ์เซีย, อูไน การ์เซีย และ อินญีโก้ เปเรซ คุมเกมรับซึ่งต้องเจองานหนักมากๆ เพราะฝั่งคู่แข่งมีแต่ดาวเตะระดับโลก ในขณะที่ รูเบน การ์เซีย ยืนประจำการคุมแดนกลาง พร้อมส่ง อันเต้ บูดีเมียร์ ลงเล่นกองหน้าคู่กับ เอ็นริก กาเยโก้