‘อาร์เซนอล’ ขุนพล เดอะ กันเนอร์ส ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ทะลุเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในรายการนี้ได้สำเร็จ หลังในเกมรอบสี่บุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ลงสนาม 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องดวลจุดโทษและก็เป็นทีมปืนใหญ่ชนะจุดโทษ 5-4 ในรอบก่อนรองฯ ยังต้องเจองานหนักต่อเนื่องเพราะเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมเรือใบสีฟ้า สภาพความพร้อมของทีมเกมนี้ มีผู้เล่นบาดเจ็บเพียงรายเดียว คือ โธมัส ปาร์เตย์ ในขณะที่ กานิต ชาก้า ติดโทษแบนเกมสุดท้าย ส่วนรายของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ หายเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือกลงสนาม คาดว่าเกมนี้ แบร์นด์ เลโน่ เฝ้าเสา , คีแรน เทียร์นี่ย์, ดาวิด ลุยซ์ และ ร็อบ โฮลดิ้ง ทำหน้าที่ปราการหลัง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, วิลเลี่ยน, ดานี่ เซบายอส, อเล็กซองเดร์ ลากาแซ็ต ลงทำเกม โดยมี ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง รับบทหัวหอกตัวเป้า
‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ ทีมเรือใบสีฟ้าของเฮดโค้ช เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในรอบสี่บุกยำ เดอะ คลาเร็ตส์ เบิร์นลี่ 3-0 ลอยลำผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้มาดวลกับ อาร์เซนอล ที่สภาพทีมไม่น่าเกรงกลัวเลยในซีซั่นนี้ ส่วนทางทีมเรือใบเรียกได้ว่าอยู่ในช่วงที่ทำผลงานได้ดีพอสมควร สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บที่จะลงสนามไม่ได้แน่นอนคือ เอริค การ์เซีย กับ โอเลซ์ซานดร์ ซินเชนโก้ ส่วนในรายของดาวยิงตัวเก่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ยังต้องรอประเมินความฟิต ซึ่งแฟนบอลของทีมต่างอยากให้กลับมาออกสตาร์ทโดยเร็ววัน คาดว่าเกมนี้ เอแดร์ซอน โมราเอส แกนหลักเกมรับเป็น ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, ชูเอา คันเซโล่ ส่วนทาง เควิน เดอ บรอยน์ ทำหน้าเพลเกมเกอร์ ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พร้อมกับ อิลคาย กุนโดกัน ลงทำเกมรุก