‘อาร์เซนอล’ ทีมปืนใหญ่ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า เข้าชิงแชมป์การกุศลด้วยตำแหน่งแชมป์ เอฟเอ คัพ ที่ถือว่าเป็นการปลอบใจเพราะอันดับบนตาราง พรีเมียร์ลีก จบแบบไม่ดีเลยเลยดัวยอันดับที่ 8 ของตาราง พร้อมทั้งไม่ติดโควต้าฟุตบอลยุโรปทั้งถ้วยเล็กและใหญ่เป็นครั้งแรกในสองทศวรรษเลยทีเดียว ที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไปเกมที่กำลังจะมาถึงถือเป็นการประเดิมฤดูกาลใหม่ที่ดี ความพร้อมของทีมในเกมนี้ คงจัดชุดใหญ่ลงลุยศึกเต็มที่เพราะศักดิ์ศรีค้ำคอขอชนะแชมป์ลีกเพื่อเรียกความมั่นใจ ทางด้าน ปาโบล มารี, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, แบรนด์ เลโน่, คัลลัม แชมเบอร์ส, ชโคดราน มุสตาฟี่ ยังต้องรอเช็คฟิต ทีมฝากความหวังไว้ที่ เฮคตอร์ เบเยริน, นิโกล่าส์ เปเป้, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง และ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์
‘ลิเวอร์พูล’ ขุนพลหงส์แดงของผู้จัดการทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ เจ้าของแชมป์ พรีเมียร์ลีก ปีล่าสุด ที่บรรดาพลพรรค เดอะ ค็อปป์ รอคอยกันมาเนิ่นนานกว่าสามทศวรรษ สำหรับซีซั่นที่ผ่านมาพวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมและควรค่าแก่การคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี และเกมต่อไปต้องเจอกับ เดอะ กันเนอร์ส แม้ถ้วยนี้จะไม่ใหญ่แต่เรื่องของศักดิ์ศรีมันคงยอมไม่ได้ สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ รายของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค อาจจะต้องรอดูอาการก่อนซึ่งไม่ได้รุนแรงไร้ปัญหาสามารถลงเล่นได้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยังเดี้ยงอยู่ ส่วนทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ โจแอล มาติป ลงซ้อมแบบเบาๆ ก็ไม่น่าจะฟิตทัน ส่วน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ยังไม่เข้าแคมป์ซ้อมคงไม่ได้มีส่วนรวม แข้งตัวหลักที่เหลือพร้อมประจำการ แน่นอนว่าแนวรุกสามประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ ลงเล่นกับแน่นอน